การยื่นขอสินเชื่อรถยนต์เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับคนที่ต้องการซื้อรถใหม่หรือรถมือสอง แต่หลายคนอาจจะมีความกังวลเกี่ยวกับการยื่นขอสินเชื่อว่าจะผ่านหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เพียงแค่คุณรู้วิธีและเตรียมตัวให้พร้อม บทความนี้เราจะมาพูดถึงเคล็ดลับในการขอ สินเชื่อ รถยนต์ กรุงศรี ให้ผ่านง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเอกสารให้ครบ การทำความเข้าใจเงื่อนไขของธนาคาร และการวางแผนการเงินที่ดี การขอสินเชื่อรถยนต์จากกรุงศรีนั้นเป็นที่นิยมมากเพราะกรุงศรีออโต้ (Krungsri Auto) มีชื่อเสียงในด้านการให้บริการสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่น และมีอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อหลายประเภทที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถใหม่ สินเชื่อรถมือสอง หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์

 

วิธีทำให้สินเชื่อรถยนต์กรุงศรีผ่านฉลุย

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม: การเตรียมตัวเริ่มต้นสู่ความสำเร็จ

ขั้นตอนแรกของการขอสินเชื่อคือการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วน การเตรียมเอกสารเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่าเอกสารที่คุณต้องเตรียมมีอะไรบ้าง:

1.1 เอกสารที่ใช้ประกอบการขอสินเชื่อรถยนต์

• บัตรประชาชน: สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขอสินเชื่อ
• สำเนาทะเบียนบ้าน: เอกสารนี้ใช้เพื่อยืนยันที่อยู่ของคุณ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาเครดิต
• สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน: เอกสารนี้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงรายได้ของคุณ เพื่อให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้
• รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (Bank Statement): ธนาคารจะตรวจสอบรายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อดูว่าคุณมีรายได้ที่คงที่และพอเพียงสำหรับการผ่อนชำระสินเชื่อ
• เอกสารการจองรถหรือเอกสารซื้อขายรถ: ใช้ในกรณีที่คุณกำลังจะซื้อรถยนต์ใหม่หรือรถมือสอง เอกสารนี้จะช่วยให้ธนาคารทราบว่าคุณกำลังจะซื้อรถรุ่นไหน ราคาเท่าไหร่ และมีการชำระเงินล่วงหน้าหรือไม่

1.2 การเตรียมเอกสารเพิ่มเติมในกรณีพิเศษ

สำหรับผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัว ควรเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น สำเนาทะเบียนการค้า หรือรายงานการเงิน เพื่อแสดงให้เห็นถึงรายได้ที่มั่นคง ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ตามเอกสารเหล่านี้ ดังนั้นควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง

 

2. วางแผนการเงินก่อนยื่นขอ สินเชื่อ รถยนต์ กรุงศรี

การวางแผนการเงินก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้การขอสินเชื่อของคุณผ่านได้ง่ายขึ้น ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของคุณจากรายได้และหนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการขอสินเชื่อ

2.1 ตรวจสอบความสามารถในการผ่อนชำระ

สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการตรวจสอบรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณในแต่ละเดือน ดูว่าคุณมีรายได้สุทธิเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นคำนวณว่าคุณสามารถจัดสรรเงินส่วนไหนสำหรับการผ่อนชำระสินเชื่อได้บ้าง การที่ธนาคารเห็นว่าคุณมีการจัดการการเงินที่ดีและสามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด จะเพิ่มโอกาสให้สินเชื่อของคุณผ่านการอนุมัติได้ง่ายขึ้น

2.2 หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้เพิ่มเติม

ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ ควรหลีกเลี่ยงการสร้างหนี้ใหม่เพิ่มเติม เช่น การกู้เงินก้อนใหม่ การใช้บัตรเครดิตเกินกำลัง เพราะการที่คุณมีหนี้สินเยอะเกินไปอาจทำให้ธนาคารพิจารณาแล้วเห็นว่าคุณมีภาระการเงินมากเกินไป ทำให้การขอสินเชื่อรถยนต์อาจไม่ผ่านได้

 

3. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครดิตและวิธีการจัดการเครดิต

เครดิตหรือประวัติการชำระหนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ การมีเครดิตที่ดีแสดงว่าคุณเป็นผู้ที่มีวินัยทางการเงินและมีความรับผิดชอบในการชำระหนี้

3.1 เช็คประวัติเครดิตบูโรก่อนยื่นขอสินเชื่อ

การตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้คุณทราบสถานะเครดิตของตัวเองว่าดีหรือไม่ดี หากคุณมีหนี้ที่ยังค้างชำระหรือมีประวัติการชำระเงินที่ล่าช้า ควรรีบจัดการชำระหนี้ให้เรียบร้อยก่อนยื่นขอสินเชื่อ

3.2 การรักษาเครดิตให้ดี

หากคุณต้องการให้การขอสินเชื่อรถยนต์ของคุณผ่านได้ง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อบ้าน หากคุณสามารถชำระหนี้ตรงเวลาเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้สินเชื่อของคุณได้รับการอนุมัติ

 

4. เลือก สินเชื่อ รถยนต์ กรุงศรี ที่เหมาะสมกับความต้องการ

ธนาคารกรุงศรีมีสินเชื่อรถยนต์หลายประเภทที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ใหม่ สินเชื่อรถยนต์มือสอง หรือสินเชื่อรีไฟแนนซ์ การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการและการเงินของคุณ

4.1 สินเชื่อรถใหม่

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่จากโชว์รูม กรุงศรีออโต้มีสินเชื่อ ไฟแนนซ์ ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจและเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น การขอสินเชื่อรถใหม่จากกรุงศรีเหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำและต้องการซื้อรถยนต์ใหม่เอี่ยม นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงสำหรับรถยนต์บางรุ่น

4.2 สินเชื่อรถมือสอง

สำหรับคนที่ต้องการซื้อรถมือสอง กรุงศรีก็มีสินเชื่อที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นเช่นกัน การขอสินเชื่อรถมือสองจากกรุงศรีอาจมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อรถใหม่เล็กน้อย แต่ยังคงมีเงื่อนไขที่ดีและยืดหยุ่นตามความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ

4.3 สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์

การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นการขอสินเชื่อใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งสามารถช่วยลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระได้ การรีไฟแนนซ์เป็นทางเลือกที่ดีหากคุณต้องการลดภาระการผ่อนชำระแต่ละเดือน

 

5. ใช้โปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษจาก สินเชื่อ รถยนต์ กรุงศรี

หนึ่งในข้อดีของการขอสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารกรุงศรีคือการมีโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษที่ออกมาเป็นระยะ ธนาคารมักจะมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย หรือของรางวัลพิเศษต่าง ๆ

5.1 ติดตามโปรโมชั่นล่าสุด

ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ ควรตรวจสอบโปรโมชั่นล่าสุดจากเว็บไซต์ เบอร์ กรุง ศรี สินเชื่อรถยนต์ หรือสาขาของธนาคารกรุงศรี เพราะบางครั้งการยื่นขอสินเชื่อในช่วงโปรโมชั่นพิเศษจะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า เช่น การลดดอกเบี้ยในปีแรก หรือการแจกบัตรเติมน้ำมันฟรี

5.2 การสมัครสินเชื่อออนไลน์

กรุงศรีออโต้มีการให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว คุณสามารถกรอกข้อมูลและยื่นเอกสารผ่านเว็บไซต์ได้ทันที และบางครั้งอาจมีโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับการสมัครออนไลน์ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยหรือการยกเว้นค่าธรรมเนียมบางรายการ

 

6. รู้จักการบริหารหนี้และวางแผนการผ่อนชำระ

หลังจากที่คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว การบริหารหนี้และการวางแผนการผ่อนชำระเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่ประสบปัญหาทางการเงินในอนาคต มาดูกันว่าเคล็ดลับในการบริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพคืออะไร

6.1 การตั้งงบประมาณการชำระหนี้

เมื่อคุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ควรวางแผนการชำระหนี้ให้ดี โดยการตั้งงบประมาณสำหรับการผ่อนชำระในแต่ละเดือน ควรทำให้แน่ใจว่าคุณมีรายได้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างไม่มีปัญหา

6.2 ชำระหนี้ตรงเวลา

การชำระหนี้ตรงเวลาไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ยังช่วยรักษาเครดิตของคุณให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์หากคุณต้องการขอสินเชื่ออื่นในอนาคต

6.3 การจัดการหนี้ร่วมกับหนี้สินอื่น

หากคุณมีหนี้สินอื่น ๆ เช่น บัตรเครดิต หรือสินเชื่อบ้าน ควรวางแผนการชำระหนี้ให้ครอบคลุมทั้งหมด การจัดสรรรายได้ให้เพียงพอสำหรับการชำระหนี้ทุกประเภทจะช่วยลดความเครียดทางการเงินและทำให้คุณมีวินัยทางการเงินมากขึ้น

 

7. เคล็ดลับสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอนในการขอสินเชื่อรถยนต์

หนึ่งในความกังวลหลักของผู้ที่มีอาชีพอิสระ หรือมีรายได้ไม่แน่นอน คือการขอสินเชื่อรถยนต์ หลายคนคิดว่าการไม่มีสลิปเงินเดือนหรือรายได้ที่ไม่คงที่อาจเป็นอุปสรรคในการขอสินเชื่อ แต่ความจริงแล้ว ธนาคารกรุงศรี และธนาคารอื่น ๆ ยังมีนโยบายและข้อกำหนดที่สามารถช่วยให้คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้

7.1 เตรียมเอกสารให้สมบูรณ์แม้ไม่มีสลิปเงินเดือน

หากคุณเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือนักธุรกิจส่วนตัวที่ไม่มีสลิปเงินเดือน คุณสามารถใช้เอกสารประเภทอื่น ๆ แทนได้ เช่น รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หรือเอกสารทางการเงินอื่น ๆ เช่น ใบแจ้งยอดรายได้จากธุรกิจ ข้อมูลการเสียภาษี หรือใบจดทะเบียนธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมั่นใจว่าคุณมีรายได้ที่มั่นคงพอที่จะชำระหนี้ได้

7.2 แสดงให้เห็นถึงกระแสเงินสดที่ดี

สำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำ ธนาคารจะดูที่กระแสเงินสดของคุณเป็นหลัก ถ้าคุณมีการฝากเงินในบัญชีธนาคารอย่างต่อเนื่องและมีการจัดการเงินที่ดี ธนาคารจะมองเห็นว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ ดังนั้นควรพยายามจัดการการเงินของคุณให้สม่ำเสมอและสร้างกระแสเงินสดที่ดีเสมอ

7.3 รักษาเครดิตให้ดี

แม้ว่าคุณจะมีรายได้ไม่แน่นอน แต่หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และรักษาเครดิตให้ดีตลอดมา โอกาสที่สินเชื่อรถยนต์จะได้รับการอนุมัติก็สูงขึ้น การชำระหนี้ต่าง ๆ ตรงเวลา เช่น ค่าสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือค่าผ่อนสินค้า จะช่วยให้ธนาคารมั่นใจในความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ

7.4 มีคนค้ำประกัน

หากคุณมีรายได้ไม่แน่นอน การมีคนค้ำประกันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้ผ่านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากคนค้ำประกันของคุณมีเครดิตดีและรายได้มั่นคง ธนาคารจะพิจารณาความเสี่ยงในระดับที่ต่ำลง และเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น

 

8. วิธีเลือกแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสม

เมื่อขอสินเชื่อรถยนต์ผ่านแล้ว การเลือกแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการเลือกแผนการผ่อนชำระที่ดีจะช่วยให้คุณจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระหนี้สิน และไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

8.1 การเลือกระยะเวลาผ่อนชำระ

แผนการผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์สามารถเลือกได้ตามระยะเวลาที่คุณต้องการ โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาการผ่อนชำระจะอยู่ที่ 12-84 เดือน การเลือกระยะเวลาที่สั้นลงจะทำให้ดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่ายน้อยลง แต่จะมีค่างวดต่อเดือนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน การเลือกผ่อนชำระระยะยาวจะช่วยลดค่างวดต่อเดือน แต่จะทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นในระยะยาว ดังนั้นควรพิจารณารายได้และค่าใช้จ่ายของคุณเพื่อเลือกแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมที่สุด

8.2 การคิดค่างวดที่เหมาะสมกับรายได้

คุณควรจัดการเงินให้ค่างวดสินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดทางการเงินและยังคงมีเงินพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การตั้งงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณผ่อนชำระหนี้ได้อย่างไม่ยากลำบาก

8.3 พิจารณาอัตราดอกเบี้ย

การเลือกอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณต้องการลดภาระหนี้ในระยะยาว ควรเลือกสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยคงที่หรือลดต้นลดดอก ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการผ่อนชำระได้ง่ายขึ้นและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามตลาดในอนาคต

8.4 เลือกชำระเงินดาวน์ให้เพียงพอ

การชำระเงินดาวน์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาระการผ่อนชำระสินเชื่อของคุณในอนาคต หากคุณสามารถชำระเงินดาวน์ได้มากเท่าไหร่ คุณจะมีค่างวดต่อเดือนที่ต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้การผ่อนชำระเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงที่จะมีภาระหนี้สินเกินตัว

 

9. การจัดการหลังจากได้รับการอนุมัติสินเชื่อ

เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติแล้ว สิ่งสำคัญคือการจัดการการเงินและการชำระหนี้ให้ดีเพื่อรักษาสถานะเครดิตและลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต

9.1 ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา

การชำระหนี้ตามกำหนดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียค่าปรับหรือดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ยังช่วยรักษาเครดิตของคุณให้ดีด้วย การผิดนัดชำระหนี้หรือชำระล่าช้าบ่อย ๆ อาจทำให้คุณเสียเครดิตและส่งผลต่อการขอสินเชื่ออื่นในอนาคต

9.2 วางแผนชำระหนี้ล่วงหน้า

หากคุณมีรายได้พิเศษหรือโบนัส การชำระหนี้ล่วงหน้าจะช่วยลดดอกเบี้ยที่คุณต้องจ่าย และทำให้ภาระหนี้ของคุณหมดเร็วขึ้น แม้ว่าบางสินเชื่อจะมีค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ล่วงหน้า แต่การชำระหนี้ให้หมดก่อนกำหนดก็เป็นการลดภาระทางการเงินในระยะยาว

9.3 เก็บบันทึกและตรวจสอบการชำระหนี้

ควรเก็บบันทึกการชำระหนี้ทุกครั้งเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการชำระหนี้ครบถ้วนและถูกต้อง นอกจากนี้ ควรตรวจสอบใบแจ้งหนี้จากธนาคารทุกครั้งเพื่อดูว่าไม่มีการคิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมที่คุณไม่ทราบ

 

10. เคล็ดลับสำหรับการรีไฟแนนซ์ สินเชื่อ รถยนต์ กรุงศรี

การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ การรีไฟแนนซ์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระการผ่อนชำระรายเดือนหรือผู้ที่มีสินเชื่อรถยนต์ที่ดอกเบี้ยสูง

10.1 รอช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์จะเป็นประโยชน์หากอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อใหม่ต่ำกว่าสินเชื่อที่คุณมีอยู่ ดังนั้นควรรอช่วงที่ธนาคารมีโปรโมชั่นหรือดอกเบี้ยสินเชื่อลดลง ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาวได้มากขึ้น

10.2 ตรวจสอบเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ควรตรวจสอบเงื่อนไขของสินเชื่อเดิมว่ามีค่าธรรมเนียมสำหรับการรีไฟแนนซ์หรือไม่ และหากมี ควรคำนวณว่าการรีไฟแนนซ์นั้นคุ้มค่าหรือไม่เมื่อรวมค่าธรรมเนียมเหล่านี้แล้ว

10.3 การเจรจาข้อตกลงใหม่กับธนาคาร

การรีไฟแนนซ์ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องย้ายสินเชื่อไปที่ธนาคารใหม่เสมอไป คุณสามารถเจรจากับธนาคารเดิมเพื่อขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระการชำระหนี้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์

 

สรุป

การขอสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารกรุงศรีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารให้ครบ วางแผนการเงินให้ดี และทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและเครดิตของคุณ การรู้จักใช้โปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษจากธนาคารก็จะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าการขอสินเชื่อที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่การได้รับการอนุมัติเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้คุณไม่ต้องมีปัญหาทางการเงินในอนาคต

 

อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย