Latest Comments

ไม่มีความเห็นที่จะแสดง
สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ต้อง โอน

สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนขอสินเชื่อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถใหม่ รถมือสอง หรือการรีไฟแนนซ์ หนึ่งในคำถามที่มักเกิดขึ้นคือสินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ต้อง โอน กับสินเชื่อที่ต้องโอนเล่ม ต่างกันอย่างไร เพราะทั้งสองรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม และมั่นใจว่าเลือกตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด

 

Table of Contents

สินเชื่อรถยนต์ ไม่ต้องโอนเล่มกับโอนเล่ม ต่างกันอย่างไร

สินเชื่อรถยนต์แบบโอนเล่ม คืออะไร

สินเชื่อรถยนต์แบบโอนเล่ม หมายถึงสินเชื่อที่ผู้ขอกู้ต้องโอนกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์ไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อ โดยจะมีการระบุชื่อของสถาบันการเงินนั้นในเล่มทะเบียนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วม หรือเป็นผู้ถือสิทธิ์การค้ำประกัน

ข้อดีของสินเชื่อโอนเล่ม

  1. วงเงินสูงกว่า
    ธนาคารมักอนุมัติวงเงินสูงสุดถึง 100% ของราคารถยนต์ เนื่องจากมีความมั่นใจในหลักประกัน
  2. ดอกเบี้ยต่ำกว่า
    การโอนเล่มทะเบียนช่วยลดความเสี่ยงของธนาคาร จึงสามารถเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าได้
  3. เหมาะสำหรับรถใหม่และการรีไฟแนนซ์
    การโอนเล่มเหมาะสำหรับการขอสินเชื่อที่มีวงเงินสูง หรือสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่างวดผ่านการรีไฟแนนซ์

ข้อเสียของสินเชื่อโอนเล่ม

  1. ขั้นตอนยุ่งยากกว่า
    การโอนเล่มทะเบียนต้องใช้เวลาและเอกสารเพิ่มเติม เช่น การไปที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์
  2. การขายต่อซับซ้อนกว่า
    หากคุณต้องการขายรถก่อนชำระหนี้หมด คุณจะต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อในเล่มทะเบียน ซึ่งอาจทำให้การขายล่าช้า
  3. ความเป็นเจ้าของไม่สมบูรณ์
    ชื่อในเล่มทะเบียนจะไม่ใช่ชื่อคุณ ทำให้คุณไม่มีอิสระเต็มที่ในกรรมสิทธิ์ของรถ

 

สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ต้อง โอน เล่ม คืออะไร

สินเชื่อรถยนต์แบบไม่ต้องโอนเล่ม หมายถึงสินเชื่อที่ผู้ขอกู้ยังคงถือกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนรถยนต์อยู่ โดยที่ชื่อในเล่มทะเบียนจะยังคงเป็นของคุณ แม้ว่ารถจะถูกใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะไม่เปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์ให้เป็นของพวกเขา

ข้อดีของสินเชื่อไม่ต้องโอนเล่ม

  1. ความเป็นส่วนตัว
    ชื่อในเล่มทะเบียนยังคงเป็นของคุณ ทำให้ไม่มีการแสดงว่ารถคันนี้ถูกใช้เป็นหลักประกัน
  2. สะดวกในการขายต่อ
    หากคุณต้องการขายรถในอนาคต คุณสามารถดำเนินการได้ง่าย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงชื่อในเล่ม
  3. กระบวนการอนุมัติรวดเร็ว
    สินเชื่อประเภทนี้มักมีขั้นตอนที่รวดเร็ว เนื่องจากไม่ต้องจัดการเรื่องการโอนเล่มทะเบียน
  4. ยืดหยุ่นในกรณีรีไฟแนนซ์
    หากต้องการเปลี่ยนสถาบันการเงิน คุณสามารถทำได้ง่ายกว่าโดยไม่ต้องเสียเวลาโอนเล่มกลับไปกลับมา

ข้อเสียของสินเชื่อไม่ต้องโอนเล่ม

  1. วงเงินอาจน้อยกว่า
    ธนาคารหรือสถาบันการเงินมักอนุมัติวงเงินต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสินเชื่อที่ต้องโอนเล่ม เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงกว่า
  2. ดอกเบี้ยอาจสูงกว่า
    เนื่องจากไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ ธนาคารอาจกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเล็กน้อยเพื่อชดเชยความเสี่ยง

 

เปรียบเทียบระหว่าง สินเชื่อ รถยนต์ ไม่ ต้อง โอน เล่มกับโอนเล่ม

หัวข้อเปรียบเทียบ ไม่ต้องโอนเล่ม โอนเล่ม
กรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียน ยังคงเป็นของผู้กู้ โอนกรรมสิทธิ์ให้สถาบันการเงิน
วงเงินสินเชื่อ ต่ำกว่า สูงกว่า
อัตราดอกเบี้ย สูงกว่า ต่ำกว่า
ความสะดวกในการขายรถ ง่ายกว่า ซับซ้อนกว่า
ขั้นตอนการดำเนินการ เร็วกว่า ใช้เวลานานกว่า
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความสะดวก ผู้ที่ต้องการวงเงินสูง

 

เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับคุณ

การเลือกสินเชื่อรถยนต์ไม่ต้องโอนเล่มหรือโอนเล่ม ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณ:

ควรเลือกสินเชื่อไม่ต้องโอนเล่ม หากคุณ:

  • ต้องการความสะดวกในการดำเนินการ
  • ไม่ต้องการให้ชื่อของคุณถูกเปลี่ยนแปลงในเล่มทะเบียน
  • ไม่ต้องการวงเงินสูงและพร้อมรับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเล็กน้อย

ควรเลือกสินเชื่อโอนเล่ม หากคุณ:

  • ต้องการวงเงินสูงสุดในการซื้อรถหรือรีไฟแนนซ์
  • ต้องการลดดอกเบี้ยและค่างวดรายเดือน
  • พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนการโอนเล่มทะเบียน

 

ทำไมสินเชื่อรถยนต์ถึงมีสองแบบ

ก่อนจะเจาะลึกในรายละเอียด เรามาดูเหตุผลเบื้องต้นว่าทำไมธนาคารและสถาบันการเงินถึงมีสินเชื่อทั้งแบบโอนเล่มและไม่ต้องโอนเล่ม:

  1. ความต้องการที่แตกต่างของผู้กู้
    ลูกค้าบางกลุ่มอาจต้องการวงเงินสูง ในขณะที่บางกลุ่มเน้นความสะดวกและรวดเร็ว การมีตัวเลือกที่หลากหลายช่วยตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วน
  2. การลดความเสี่ยงของธนาคาร
    การโอนเล่มทะเบียนช่วยให้ธนาคารมั่นใจว่า หากลูกค้าผิดนัดชำระ ธนาคารยังมีหลักประกันที่สามารถยึดคืนได้อย่างถูกกฎหมาย
  3. ความยืดหยุ่นในตลาดสินเชื่อ
    ด้วยการแข่งขันในตลาดที่สูง การนำเสนอสินเชื่อทั้งสองรูปแบบช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และยังสร้างจุดเด่นให้สถาบันการเงินสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

 

เจาะลึก สินเชื่อ รถยนต์

เหมาะกับคนที่ต้องการรักษาความเป็นเจ้าของ

สินเชื่อประเภทนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อในเล่มทะเบียน เช่น คนที่มีแผนจะขายรถในอนาคต หรือคนที่ใช้รถยนต์ในกิจการซึ่งต้องการให้ชื่อในเล่มยังคงเป็นชื่อของธุรกิจ

กระบวนการอนุมัติที่รวดเร็ว

  1. ขั้นตอนง่ายกว่า
    การไม่ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อในเล่มทะเบียนช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนการสมัครสินเชื่อ ทำให้ได้รับเงินเร็วขึ้น
  2. ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอน
    สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย การหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมโอนเล่มทะเบียนเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน

เงื่อนไขที่ควรระวัง

  1. ดอกเบี้ยที่สูงกว่า
    เนื่องจากไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ สถาบันการเงินอาจมองว่าความเสี่ยงสูงกว่า จึงกำหนดดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
  2. วงเงินจำกัด
    วงเงินที่ได้รับอนุมัติมักจะไม่เกิน 80-90% ของราคารถยนต์

 

เจาะลึกสินเชื่อแบบโอนเล่ม

ความมั่นใจด้านวงเงิน

ธนาคารที่มีการถือกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียนมักจะอนุมัติวงเงินได้สูงสุดถึง 100% ของราคารถยนต์ หรือในบางกรณีอาจมากกว่านั้น เช่น ในกรณีของรถใหม่ที่มีราคาประเมินสูง

เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาอัตราดอกเบี้ยต่ำ

  1. ลดภาระทางการเงิน
    สินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำช่วยให้การผ่อนชำระในระยะยาวเป็นไปได้ง่ายขึ้น และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายรวมในระยะยาว
  2. เหมาะกับการรีไฟแนนซ์
    หากคุณมีแผนที่จะรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ยหรือปรับระยะเวลาผ่อนชำระ สินเชื่อแบบโอนเล่มเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ข้อควรระวัง

  1. การขายรถที่ยุ่งยากขึ้น
    หากต้องการขายรถในระหว่างที่ยังผ่อนชำระอยู่ คุณต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อในเล่มทะเบียนก่อน ซึ่งอาจใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  2. ระยะเวลาในการดำเนินการ
    การโอนเล่มทะเบียนต้องผ่านขั้นตอนที่มากกว่า ทำให้กระบวนการอนุมัติและรับเงินช้ากว่าแบบไม่โอนเล่ม

 

ข้อดีเพิ่มเติมของสินเชื่อแบบไม่โอนเล่ม

1. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว

หากคุณมีแผนการใช้งานรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น การขายต่อในระยะเวลาอันสั้น หรือการใช้งานรถยนต์ในกิจการที่ต้องคงชื่อเจ้าของเดิมในเล่มทะเบียน สินเชื่อแบบไม่โอนเล่มจะช่วยให้คุณจัดการกับความต้องการเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

2. ไม่กระทบกับสถานะทางกฎหมายของรถ

การไม่ต้องเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดปัญหาทางกฎหมาย เช่น การถูกฟ้องร้องเรื่องกรรมสิทธิ์รถยนต์ หรือการเกิดปัญหาที่ต้องใช้เล่มทะเบียนในการยืนยันตัวตนของเจ้าของรถ

3. ใช้เวลาน้อยในการดำเนินการ

กระบวนการอนุมัติที่รวดเร็วและการไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์ช่วยให้ผู้กู้ได้รับเงินเร็วกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนหรือเงินสำรองฉุกเฉิน

 

ข้อเสียเพิ่มเติมของสินเชื่อแบบโอนเล่ม

1. ความซับซ้อนในการคืนเล่มทะเบียน

ในกรณีที่คุณต้องการปิดบัญชีสินเชื่อและรับเล่มทะเบียนคืน คุณอาจต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การยื่นเอกสารเพื่อขอคืนเล่ม และการชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

2. ข้อจำกัดในกรณีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือครอง

หากคุณมีแผนจะขายรถยนต์ในระหว่างการผ่อนชำระ คุณอาจต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์เพิ่มเติม ซึ่งอาจใช้เวลาและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

3. ความเสี่ยงด้านการเงินในกรณีผิดนัดชำระ

การโอนเล่มทะเบียนเป็นหลักประกันให้ธนาคารสามารถเรียกคืนรถได้ง่ายขึ้นในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ ดังนั้น คุณควรแน่ใจว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระก่อนตัดสินใจเลือกสินเชื่อแบบนี้

 

คำถามที่ควรถามตัวเองก่อนเลือก

  1. คุณต้องการวงเงินสูงสุดหรือไม่? หากคำตอบคือ “ใช่” สินเชื่อแบบโอนเล่มอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถอนุมัติวงเงินได้สูงกว่าแบบไม่โอนเล่ม
  2. คุณต้องการความยืดหยุ่นในอนาคตหรือไม่? หากคุณต้องการคงชื่อในเล่มทะเบียนเพื่อการขายต่อ หรือมีแผนการเปลี่ยนแปลงรถในอนาคต สินเชื่อแบบไม่โอนเล่มจะให้ความสะดวกมากกว่า
  3. ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมมีความสำคัญกับคุณแค่ไหน? หากคุณต้องการลดภาระดอกเบี้ยในระยะยาว สินเชื่อแบบโอนเล่มอาจตอบโจทย์มากกว่า เนื่องจากมักมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า
  4. คุณมีความสามารถในการผ่อนชำระในระยะยาวหรือไม่? หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะการเงินในอนาคต การเลือกสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่นในเงื่อนไข เช่น สินเชื่อแบบไม่โอนเล่ม อาจช่วยลดความเสี่ยงได้

 

ความสำคัญของการตรวจสอบเอกสาร

ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อแบบโอนเล่มหรือไม่โอนเล่ม การตรวจสอบเอกสารและเงื่อนไขในสัญญาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดหรือข้อผูกมัดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต

เอกสารสำคัญที่ต้องตรวจสอบ

  1. สัญญาเงินกู้
    อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และค่าปรับในกรณีผิดนัดชำระ
  2. เล่มทะเบียนรถ
    ตรวจสอบชื่อและรายละเอียดของรถในเล่มทะเบียนว่าถูกต้องและตรงกับข้อมูลจริง
  3. ตารางการผ่อนชำระ
    ตรวจสอบยอดเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน และวันที่ครบกำหนดชำระ

 

คำแนะนำสำหรับการเลือกสินเชื่อ

1. วิเคราะห์ความต้องการของตัวเอง

  • หากคุณต้องการวงเงินสูงและดอกเบี้ยต่ำ การเลือกสินเชื่อแบบโอนเล่มเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
  • แต่หากคุณต้องการความสะดวก รวดเร็ว และยังคงถือครองกรรมสิทธิ์ในรถ สินเชื่อแบบไม่โอนเล่มอาจตอบโจทย์คุณได้มากกว่า

2. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน

  • สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เช่น อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และวงเงินอนุมัติ ควรศึกษารายละเอียดอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ

3. พิจารณาสภาพการเงินของคุณ

  • หากคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระดีและต้องการลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว การเลือกสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำที่สุดคือทางเลือกที่ดีที่สุด
  • แต่หากคุณมีข้อจำกัดทางการเงินและต้องการวงเงินเร่งด่วน การเลือกสินเชื่อที่ดำเนินการง่ายและรวดเร็วอาจเป็นทางออกที่ดีกว่า

 

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสมัครสินเชื่อรถยนต์

ไม่ว่าจะเลือกแบบโอนเล่มหรือไม่โอนเล่ม สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมเอกสารและข้อมูลให้ครบถ้วน:

เอกสารที่ใช้ทั่วไป

  1. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
  2. หลักฐานการเงิน เช่น สลิปเงินเดือนหรือรายงานการเงินย้อนหลัง
  3. สำเนาทะเบียนรถ (กรณีรีไฟแนนซ์หรือสินเชื่อไม่โอนเล่ม)
  4. หนังสือรับรองการทำงานหรือเอกสารยืนยันรายได้ (กรณีผู้ประกอบการ)

 

สินเชื่อรถยนต์แบบไม่ต้องโอนเล่ม และโอนเล่ม ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการความสะดวกและไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในเล่มทะเบียน สินเชื่อไม่ต้องโอนเล่มอาจเหมาะกับคุณ แต่หากคุณต้องการวงเงินสูงและดอกเบี้ยต่ำ สินเชื่อโอนเล่มอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบใด การวางแผนการเงินและตรวจสอบรายละเอียดสัญญาสินเชื่อให้ครบถ้วนจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมที่สุด

 

อ่านบทความเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ได้ ที่นี่

ข้อมูลเว็บสินเชื่อรถยนต์จากธนาคารแห่งประเทศไทย

CATEGORIES

Blog

No responses yet

    ใส่ความเห็น

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *